ทันตกรรมด้านการทำฟันปลอม

ฟันปลอม เป็นทางเลือกหนึ่งสำหรับผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับฟัน ทั้งผู้ที่อยู่ในวัยชรา ฟันหลุดไปตามวัย และผู้ที่มีปัญหาฟันผุ ปวดฟันจนต้องถอนฟันไป หรืออาจจะเป็นผู้ที่ประสบอุบัติเหตุจนทำให้ฟันหลุดไปก็เป็นได้  ฟันปลอมจึงเป็นฟันที่ถูกทำขึ้น เพื่อไว้ใส่ทดแทนฟันธรรมชาติ ทำให้ผู้ที่ใส่สามารถเคี้ยวอาหารอย่างมีประสิทธิภาพได้เหมือนเดิม นั่นคือ บดเคี้ยวอาหารได้ละเอียดขึ้น ทำให้กระเพาะอาหารไม่ต้องทำงานหนักจนเกินไปสามารถยิ้มได้อย่างมั่นใจด้วยฟันที่มีครบทุกซี่อย่างที่เคยมี เสริมสร้างบุคลิกภาพให้ดูดีได้เหมือนเดิม นอกจากนี้การใส่ฟันปลอมยังช่วยป้องกันไม่ให้ฟันที่อยู่ข้างเคียงล้มเอียงหรือฟันคู่สบยื่นยาวเข้าหาช่องว่างที่สูญเสียฟันได้อีกด้วย

โดยปกติแล้วหลังการถอนฟัน แผลจะหายได้เองราว 2 สัปดาห์ มีเพียงกระดูกเบ้าฟันเท่านั้นที่ยังกลวงอยู่ ในระหว่างนั้นจะมีการปรับเปลี่ยนรูปร่างกระดูกตามธรรมชาติ ใช้เวลาราว 6 สัปดาห์ มีข้อแนะนำว่าระยะเวลาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการใส่ฟันปลอมก็คือ ระยะเวลา 2 เดือนภายหลังจากการถอนฟัน เพราะหากใส่ฟันปลอมเร็วเกินไป อาจจะทำให้ฟันปลอมหลวมในภายหลังได้ อย่างไรก็ตามหากมีกรณีที่จำเป็นต้องใส่จริง ๆ เช่น ฟันแท้ซี่หน้าหลุดไป อาจทำให้เสียบุคลิกภาพ แนะนำว่าควรใส่ฟันปลอมชั่วคราวไปก่อน และให้ทำฟันปลอมแบบถาวรหลังจากถอนฟัน 2 เดือนแล้วจะเป็นการดีกว่า

ฟันปลอมชนิดถอดได้

เป็นฟันปลอมที่ทำขึ้นไว้สำหรับผู้ที่ยังมีฟันธรรมชาติอยู่ เพราะเป็นการใส่ฟันปลอมเพียงบางส่วน สามารถถอดออกมาทำความสะอาดได้ แบ่งออกเป็น ฟันปลอมแบบโครงโลหะ ฟันปลอมแบบโครงอะคริลิก และฟันปลอมแบบถอดได้ทั้งปาก สำหรับฟันปลอมแบบโครงโลหะจะมีความแข็งแรงกว่าแบบโครงอะคริลิก มีการสวมใส่โดยการแนบไปกับเพดานปาก แต่มีราคาแพงกว่าแบบโครงอะคริลิก สำหรับฟันปลอมอะคริลิก อาจเรียกอีกชื่อหนึ่งว่าฟันปลอมชั่วคราว เพราะมีความแข็งแรงน้อย ใส่ไม่ค่อยสบาย หากใช้ไปนาน ๆ อาจมีกลิ่นและสีเปลี่ยน อายุการใช้งานโดยประมาณราว 5-10 ปี ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการดูแลรักษาฟันปลอมด้วยเช่นกัน

 ข้อดี

ฟันปลอมชนิดนี้ ผู้สวมใส่สามารถถอดออกมารักษาทำความสะอาดได้ง่าย ใส่ฟันได้หลายซี่หรือจะทั้งปากก็ได้ มีราคาถูกกว่าฟันปลอมชนิดติดแน่น และสามารถบดเคี้ยวอาหารได้ตามปกติ

ข้อเสีย

อาจทำให้ผู้สวมใส่เกิดความรำคาญในขณะเคี้ยวอาหารหรือตอนพูดได้ ประสิทธิภาพในการบดเคี้ยวมีน้อยกว่าฟันปลอมชนิดติดแน่น และอาจมองเห็นตะขอสำหรับใช้เกี่ยวทำให้ดูไม่สวยงาม

ฟันปลอมชนิดติดแน่น

ฟันปลอมชนิดนี้มีลักษณะที่ติดยึดแน่นในช่องปาก โดยใช้ฟันธรรมชาติซี่ข้างเคียงกับช่องว่างเป็นหลักในการยึดฟันปลอม แบ่งออกได้เป็น เดือยฟัน ครอบฟัน และสะพานฟัน

ข้อดี

ฟันปลอมชนิดติดแน่นจะมีลักษณะและขนาดที่เหมือนกับฟันธรรมชาติมากกว่าฟันที่ถอดออกได้ ไม่มีส่วนของเหงือกปลอมหรือตะขอที่เกะกะการใช้งาน แข็งแรง มีประสิทธิภาพดีกว่าชนิดถอดได้ และให้ความรู้สึกที่สบายกว่า มีความสวยงาม ไม่เห็นตะขอที่ใช้เป็นหลักยึด

ข้อเสีย

มีราคาค่อนข้างสูง หากจะใช้ก็ต้องมีการกรอฟันข้างเคียงออกก่อนเพื่อใช้ยึดฟันปลอม ทำให้สูญเสียเนื้อฟัน และฟันปลอมชนิดนี้ยังไม่สามารถถอดออกมาล้างทำความสะอาดได้ ติดแน่นอยู่ในช่องปาก ซึ่งหากผู้ที่สวมใส่ไม่ดูแลสุขภาพฟันให้ดี เช่น แปรงฟันไม่สะอาด และไม่ทั่วถึง อาจทำให้ฟันข้างเคียงเสียหาย หรือเป็นโรคฟัน ทั้ง ฟันผุ และเป็นโรคเหงือกได้ง่าย

การดูแลรักษาฟันปลอม

อย่าลืมว่าฟันปลอมไม่ได้มีไว้สำหรับผู้ที่สูงอายุเท่านั้นนะคะ ไม่แน่ว่าหากดูแลฟันไม่ดี เป็นเหตุที่ทำให้จำเป็นต้องถอนฟันแท้ไป ก็คงต้องใช้บริการฟันปลอมก่อนวัยอันควร ดังนั้นหากใครที่จำเป็นต้องใส่ฟันปลอมแล้ว มีข้อควรรู้ในการดูแลรักษาฟันปลอมมาแนะนำกันค่ะ

  • รักษาความสะอาดฟันปลอมให้ดี ดูแลทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ หากเป็นแบบถอดได้ หลังจากล้างฟันปลอมจนสะอาดแล้วควรแช่น้ำไว้ในภาชนะที่มีฝาปิด เพื่อให้ฟันปลอมนั้นอยู่ในสภาพที่เหมือนอยู่ในปาก นั่นคือ อยู่ในน้ำแทนน้ำลาย
  • สังเกตฟันปลอมที่สวมใส่ว่าพอดีหรือไม่ หลวมไปหรือเปล่า หากหลวมไป ควรปรึกษาทันตแพทย์ เพราะหากมีฟันปลอมที่ไม่พอดีอาจจะทำให้เกิดการละลายตัวของกระดูกที่รองรับฟันปลอมได้ และหากใช้ซี่ฟันปลอมที่สึก อาจด้วยใช้นานเกินไป ก็จะเป็นเหตุให้รูปหน้าเปลี่ยนไปได้ สังเกตได้จากเวลาเคี้ยวอาจจะทำให้คางยื่นออกมา
  • ควรพบทันตแพทย์อย่างสม่ำเสมออย่างน้อยทุก ๆ 6 เดือน เพื่อให้ทันตแพทย์ได้ตรวจดู หากมีสิ่งใดผิดปกติจะได้ทำการแก้ไขได้อย่างทันท่วงที
  • หากมีเหตุการณ์อะไรก็ตามที่ทำให้จำเป็นต้องสวมใส่ฟันปลอม ก็ไม่ต้องกังวลไปนะคะ เพราะฟันปลอมนั้นได้รับการออกแบบให้ดูเป็นธรรมชาติอยู่แล้ว เพียงแต่ดูแลรักษาฟันปลอมให้ดี เพื่ออายุการใช้งานที่ยาวนาน จะได้คุ้มค่าในการใช้ฟันปลอม มีบุคลิกภาพที่ดูดีเหมือนเดิมค่ะ